30
Apr
ปลูกกะเพรา ไว้กินเองดีกว่า! กะเพราเป็นพืชที่ใช้ใบสดใบอ่อนประกอบอาหารเพื่อดับกลิ่นคาวของอาหารประเภทเนื้อ ช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอม และเสริมให้อาหารมีรสชาติดี เรียกได้ว่าผัดกะเพราเป็นอาหารยอดฮิตของคนไทยทีเดียวแต่อย่ามองคุณค่าของใบกะเพราว่าเป็นเพียงแค่อาหารเท่านั้น เพราะการรับประทานกะเพรานอกจากอร่อยแบบไทยๆ แล้ว ยังช่วยลดอาการท้องอืด เนื่องจากกะเพรามีสารช่วยในการย่อยอาหาร
ต้นกะเพราจัดเป็นไม้พุ่มเตี้ย อายุยืนนาน ความสูงพุ่มประมาณ 75 เซนติเมตร ลําต้นและใบมีขนเล็กน้อย ขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด และปลูกได้ในทุกฤดูกาล แต่ควรเริ่มปลูก ในฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นกะเพรางอกงามได้ดีที่สุด ชอบดินร่วนซุย เช่นเดียวกับพืชผัก ชนิดอื่นๆ พันธุ์กะเพราที่นิยมปลูกในบ้านเรามี 2 พันธุ์ คือ กะเพราแดง และ กะเพราขาว ซึ่งมีข้อแตกต่างกันตรงสีของลําต้นและก้านใบกะเพราแดงนั้นสีของลําต้นและก้านใบจะเป็น สีม่วงแดงคล้ายกับใบโหระพา ส่วนกะเพราขาวนั้นสีของลําต้นและก้านใบจะเป็นสีเขียวอ่อน คล้ายกับแมงลัก
การปลูกกะเพราเป็นการค้า นิยมใช้การหว่านเมล็ดมากกว่าการปลูกด้วยกิ่งชํา แต่ในกรณีที่ปลูกเป็นพืชผักสวนครัว ก็ปลูกง่าย ดูแลง่าย เริ่มด้วยการใช้กิ่งชําน่าจะดีกว่า ขั้นตอนการปลูกเริ่มจากการเตรียมดิน โดยขุดดินลึกประมาณ 20-25 เซนติเมตร ตากดินไว้ 7-10 วัน ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรองก้นหลุม คลุกให้เข้ากันกับดิน ย่อยดินให้ละเอียดและร่วนซุย การปลูกควรกะระยะให้ต้นห่างกันประมาณ 1 ฟุต ถ้าต้องการให้ต้นกะเพราออกใบงดงาม ก็อาจบํารุงต้นด้วยปุ๋ยอินทรีย์และมีการกําจัดวัชพืชเป็นครั้งคราว เพื่อไม่ให้แย่งอาหารต้นกะเพรา นอกจากนี้เมื่อต้นกะเพราโตแล้วก็ควรมีการตัดแต่งกิ่งใหม่ เพื่อให้ต้นกะเพราแตกกิ่งก้านออกมาใหม่ เรียกว่ายิ่งตัดยิ่งออกใบใหม่ให้เรากิน กะเพราที่ปลูกนั้นสามารถเก็บรับประทานได้ภายใน 70 วันหลังจากการปลูกและในการเก็บไม่ควรใช้วิธีถอนต้นกะเพรา ควรใช้มีดคมๆ ตัดกิ่งก้านที่ต้องการออกมา ซึ่งวิธีการเก็บผลผลิตแบบนี้ทําให้มีกะเพราเก็บไว้กินได้นานๆ